วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

7 อุปนิสัยแห่งประสิทธิผล นั้นเป็นไฉน


7 อุปนิสัยแห่งประสิทธิผล นั้นเป็นไฉน ?/ดร.นพ.ยุทธนา ภาระนันท์
ปีนี้ ทำไมต้องคิดบวก?
       คมคิด: ผู้ชนะเห็นปัญหาเป็นสิ่งท้าทาย แต่ผู้แพ้เห็นเป็นอุปสรรค

      
       กว่า 100 ปีมาแล้ว ที่นักวิ่งพยายามทำสถิติวิ่ง 1 ไมล์ ให้ได้ภายในเวลา 4 นาที หลายคนบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครจะสามารถทำได้ ที่จริงนิตยสารทางการแพทย์มากมาย ก็ได้อธิบายไว้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลย ที่มนุษย์จะสามารถวิ่งระยะทาง 1 ไมล์ ได้ภายในเวลาไม่ถึง 4 นาที
      
       ทว่า นักศึกษาแพทย์ชาวอังกฤษคนหนึ่งเชื่อว่าเป็นไปได้ ในเดือนพฤษภาคม 1954 นายโรเจอร์ แบนนิสเตอร์ (Roger Bannister) ได้วิ่งระยะทาง 1 ไมล์ได้ภายในเวลา 3:59.4 นาที และหลังจากนั้น สถิติการวิ่ง 1 ไมล์ ภายใน 4 นาที ได้ถูกทำลายลงครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รวมกว่า 700 ครั้ง โดยผู้คนมากหน้าหลายตา
      
       อะไรทำให้ โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ต่างจากคนอื่น อะไรทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะปัญหาที่คนอื่นๆ พ่ายแพ้มากว่า 100 ปี...ใช่แล้วครับ พลังคิดบวก อันเป็นความเชื่อมั่นว่าปัญหานี้ต้องมีทางเอาชนะได้เป็นแน่ ทำให้เห็นเป็นสิ่งท้าทาย มากกว่าจะเป็นอุปสรรค
      
       ในทางจิตวิทยาเชิงบวก พบว่า มีคุณลักษณะ 24 ประการ (24 Strengths & Virtues) ที่เป็นพลังคิดบวกในชีวิตมนุษย์ มีครั้งหนึ่งผมบรรยายเกี่ยวกับ “จิตวิทยาเชิงบวกกับทุนทางจิตวิทยา” ผมนำเสนอ 4 คุณลักษณะที่ผ่านการศึกษาวิจัยว่าส่งผลทำให้เกิดพลังคิดบวกในการทำงานที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ย่อว่า HORSE ได้แก่ Hope ความหวัง, Optimism การมองโลกในแง่ดี, Resilience การหยุ่นตัว, Self-Efficacy ความเชื่อมั่นในสมรรถนะของตน สามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มผลการปฏิบัติงานอย่างมาก (Based on Luthans, Fred. 2005)
      
       เนื่องจาก HORSE มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับ 7 อุปนิสัยแห่งประสิทธิผล (7Habits) อย่างมาก วันนี้ ผมจึงขอเสนอแบบสำรวจในเรื่องนี้ ลองสำรวจตนเองด้วยกันครับ (Adapted from Stephen R.Covey.2010)
      
       แบบสำรวจคิดบวกสไตล์ 7อุปนิสัยแห่งประสิทธิผล (7Habits positive thinking Check) (กรุณาศึกษาเพิ่มเติมที่ www.HowAreYou.co.th)
      
       ช่วงที่ผ่านมา ชีวิตและการทำงานของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? (กรุณา√หน้าข้อตามจริง)
      
       1.ฉันมักเสนอให้เปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อสร้างโอกาสในอนาคต
       2.เมื่อฉันเริ่มทำงานแต่ละชิ้น ฉันมองเห็นความสำเร็จที่ปลายทางเรียบร้อยแล้ว
       3.ฉันมักฉุกคิดได้ทันเมื่อทำงานที่ไม่สำคัญมากนัก ช่วยให้ฉันหันกลับมาทำงานตามที่ลำดับไว้
       4.เมื่อเกิดข้อขัดแย้ง ฉันพยายามหาข้อยุติที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์สูงสุดร่วมกัน
       5.ฉันพยายามเข้าใจประสบการณ์ของผู้อื่น จากมุมมองของเขามากกว่าคิดเอาเอง
       6.ฉันและเพื่อนๆ มีความหลากหลายและประสานกันสู่เป้าหมายได้ดี
       7.ฉันเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และหมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองท่ามกลางแรงกดดันอยู่เสมอ
       8.แม้บางคนจะปฏิบัติต่อฉันอย่างไม่เหมาะสม แต่ฉันก็ยังปฏิบัติต่อเขาด้วยใจปรารถนาดี
       9.เมื่อเผชิญการผันผวนเปลี่ยนแปลง ฉันสามารถยิ้ม หัวเราะและมีอารมณ์ดีได้อยู่
       10.ฉันไม่เพียงพูดถึงปัญหา แต่เสนอทางแก้ที่หลากหลายตลอดจนวิธีป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำ
      
       แปลผลและข้อเสนอแนะ : ยิ่งมีมาก ยิ่งแสดงว่ามีอุปนิสัยที่เอื้อต่อการเป็นคนคิดบวกมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อประสิทธิผลการทำงานเป็นทีมตามมา เพื่อพัฒนาในเรื่องนี้ ผมมีหลักสูตรแนะนำ ได้แก่ เร่งพลังใจนักขายให้เต็มร้อย...ด้วยพลังคิดบวก, 7Habits plus...กุญแจไขพลังคิดบวก คิดสร้างสรรค์, EQ…หัวใจแห่งพลังทีมสร้างสุข สนใจ Training กรุณาติดต่อ 02-9422420; Yparanan@Gmail.com; www.HowAreYou.co.th; www.facebook.com/yparanan
      
       “คนคิดบวก ล้มลงเจ็ดครั้ง เขายังลุกขึ้นอีก” ท่านเห็นด้วยหรือไม่?

ที่มา
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9560000004734

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2556

ยุทธวิธีถ่ายสบาย หายท้องผูก


ยุทธวิธีถ่ายสบาย หายท้องผูก (MomyPedia)
โดย: น.พ.สมชาย แสงกิจพร

            ท้องผูกเป็นอาการที่เกิดจากโรคหรือความผิดปกติหลายอย่าง อาการนี้ดูไม่ร้ายแรง แต่ใครไม่เจอกับตัวเอง ไม่รู้หรอกครับว่ามันทรมานแค่ไหน..ใส่ใจกับเรื่องกินเรื่องอยู่กันสักนิด แล้วจะถ่ายสบายหายห่วง
                                    
ท้องผูก..ได้อย่างไรนะ
      
            สาเหตุของอาการท้องผูกที่พบบ่อย ได้แก่ การขาดการออกกำลังกาย ดื่มน้ำน้อย กินผักผลไม้น้อย หรือดื่มชา กาแฟ ซึ่งมีสารทำให้ท้องผูก บางคนมีความวิตกกังวลสูง หรือเศร้าซึมเป็นอาจินต์ ก็มักมีอาการท้องผูกด้วย นอกจากนั้นโรคของระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ริดสีดวงทวาร หรือแผลแตกบริเวณปากทวารหนักก็ทำให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นเดียวกัน
มะเร็ง..ก็ทำให้ท้องผูก
        
            โรคระบบทางเดินอาหารที่น่ากลัว และทำให้เกิดอาการท้องผูกได้ คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องผูกสลับกับท้องเดินเป็นระยะๆ และเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือด น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เบื่ออาหาร หรือคลำพบก้อนบริเวณท้อง ซึ่งถ้าใครมีอาการแบบนี้ควรปรึกษาแพทย์โดยด่วนครับ
ริดสีดวงทวาร..ตัวการหนึ่งของท้องผูก
        
            ส่วนโรคระบบทางเดินอาหารที่ไม่น่ากลัวและพบมากในปัจจุบัน ได้แก่ ริดสีดวงทวาร ซึ่งอาจเป็นผลของอาการท้องผูก และกลายเป็นเหตุของอาการท้องผูกตามมา เรียกว่าเป็นวงจรก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยมักจะกลัวการถ่ายอุจจาระ เพราะเจ็บเวลาถ่าย จึงมักกลั้นอุจจาระไว้ นานๆ เข้าก็เกิดอาการท้องผูกตามมา จึงควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ นั่นคือรักษาโรคริดสีดวงทวารเสีย

5 วิธีเพื่อความโล่งสบายคลายทุกข์

ออกกำลังกาย..หนึ่งสอง..หนึ่งสอง
            การออกกำลังกายทำให้ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เคลื่อนไหว รวมทั้งทำงานได้ดีขึ้น เช่น หัวใจสามารถสูบฉีดโลหิตได้เร็วและแรงมากขึ้น กระเพาะอาหารและลำไส้ขยับเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ทำให้อาหารที่เรากินสามารถส่งผ่านไปได้ง่ายและสะดวก ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะถ่ายปกติ ตรงข้ามกับผู้ที่นั่งทำงานทั้งวัน ลำไส้ก็ลอยอยู่นิ่งไปด้วย กากอาหารก็จะค้างและจับตัวเป็นก้อนแข็งได้ง่าย อาการท้องผูกก็จะตามมา

ผักผลไม้..อย่าให้ขาด    
            อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวได้ดี กากอาหารสามารถขับถ่ายออกมาได้ง่ายและสม่ำเสมอ เพราะมีกากใยเป็นตัวกระตุ้น ผู้ที่มีอาการท้องผูก จึงควรทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น ฝรั่ง มะละกอ ผักต่างๆ แต่ที่น่ากังขา ได้แก่ น้ำผลไม้คั้นต่างๆ ที่โฆษณาว่าสามารถรักษาอาการท้องผูกได้ เพราะมีแต่น้ำแต่ไม่มีกากใย หรือมีก็น้อยมาก จะไปรักษาได้อย่างไร?

ดื่มน้ำมาก..กากอาหารอ่อนตัว
            การดื่มน้ำน้อยเกินไป ทำให้กากอาหารในลำไส้ใหญ่แข็งตัว และจับกันเป็นก้อน จึงขับถ่ายออกได้ยากกว่าปกติ เราควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และในผู้ที่ท้องผูกอยู่แล้ว ควรเพิ่มปริมาณน้ำดื่มให้มากกว่าปกติ จะช่วยให้กากอาหารอ่อนตัวลงได้ สิ่งที่ควรงดดื่ม คือ น้ำชา กาแฟ เพราะมีสารที่ทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง จึงทำให้เกิดอาการท้องผูก

ฝึกขับถ่ายให้เป็นนิสัย
            หากไม่อยากมีท้องผูกเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ ควรเริ่มฝึกถ่ายให้เป็นนิสัย และไม่ควรรีบเร่งถ่าย โดยอ้างว่า มีเวลาน้อย ต้องรีบไปทำงาน ห้องน้ำก็ควรเลือกที่ปลอดโปร่งสักหน่อย ประเภทมีคนยืนรอคิวอยู่หน้าห้องน้ำยาวไปถึงหน้าบ้าน ก็ลำบากไปหน่อย..มันฝืดน่ะ

น้ำ 1 แก้วเพื่อความคล่องสบาย
            ตื่นเช้าก่อนเข้าห้องน้ำถ่าย ควรดื่มน้ำก่อน 1 แก้ว เพื่อกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวจะได้ถ่ายสะดวกขึ้น น้ำใส ๆ 1 แก้วในตอนเช้า ยังช่วยให้เกิดความสดชื่น เหมือนดอกไม้บานยามเช้ายังไงยังงั้น
          
            ถ้าลองทุกวิธีที่กล่าวมาแล้วไม่ได้ผล ค่อยใช้ยาระบายซึ่งมีหลายชนิดและออกฤทธิ์ต่างกัน ก่อนใช้ยาระบายควรปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

อย่าทำให้ลูกต้องท้องผูก
           
            ในเด็กเล็ก ๆ ที่ถูกบังคับให้นั่งกระโถน บางรายอาจมีอาการท้องผูกได้ เพราะเป็นปฏิกิริยาต่อต้านการถูกบังคับ พ่อแม่จึงควรนึกเสมอว่าเด็ก ๆ ก็มีหัวใจ และควรพบกันครึ่งทางคือ ฝึกให้ลูกนั่งกระโถนถ่ายเมื่อเขาพร้อม อาจต้องให้รางวัลจูงใจกันบ้างตามสมควร ที่สำคัญควรฝึกถ่ายให้เป็นเวลาด้วย
          
            ในทารกหรือเด็กเล็กอาจสวนด้วยแท่งกลีเซอรีน ไม่ควรใช้ยาระบายหรือยาสวนเป็นประจำ เพราะทำให้ท้องผูกเป็นนิสัย จนต้องสวนทุกครั้ง หากอาการท้องผูกไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ที่มา
http://health.kapook.com/view25428.html